บทสวดมนต์ทำวัตรเย็น พระสูตร พระปริตร ฉบับเจริญสติภาวนา [มคธ] Thai Monks Pali Chanting
สวดโดย พระทรงวุฒิ ถิรจิตโต
" ในทางพระพุทธศาสนา คำว่า “มนต์”หมายถึง หลักธรรม บทสอนใจ
หลักธรรมในบทสวดนั้น สามารถนำไปเป็นข้อประพฤติปฏิบัติจนเกิดผลที่ปรารถนาได้อย่างน่าอัศจรรย์ บทพระพุทธมนต์ ในพระพุทธศาสนานิกายเถรวาทนั้นท่านใช้ภาษาบาลี ซึ่งถ้าแปลความหมายออกมาก็จะพบว่าส่วนใหญ่แล้วเป็นคำสวดบูชาเพื่อระลึกถึงพระคุณของพระรัตนตรัย อันได้แก่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แทบทั้งสิ้น จึงนับเป็นอุบายในการเจริญสติอย่างหนึ่ง ที่เรียก พุทธานุสติ ธรรมานุสติ และสังฆานุสติ
ในการสวดมนต์ทุกครั้ง จะเริ่มด้วยคำบูชาพระบรมศาสดาว่า “ นโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ” แปลความว่า “ ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง” และตามด้วยพระพุทธมนต์บทต่างๆ ตามแต่วาระและโอกาส ซึ่งเป็นกิจที่เราชาวพุทธทุกคนได้ประพฤติปฏิบัติเป็นกิจวัตรประจำวันจึงขอน้อมนำอานิสงค์ของการสวดสาธยายพระพุทธมนต์มาแบ่งปันกันดังนี้.
"อานิสงส์ของการสวดมนต์ เทศนาโดยท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต ) พรหมรังสี
ยังมีคนส่วนใหญ่เข้าใจว่า การสวดมนต์มีประโยชน์น้อย และเสียเวลามากหรือฟังไม่รู้เรื่อง ความจริงแล้วการสวดมนต์มีประโยชน์อย่างมากมายเพราะการสวดมนต์เป็นการกล่าวถึงคุณงามความดี ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่าพระองค์ท่านมีคุณวิเศษอย่างไร พระธรรมคำสอนของพระองค์มีคุณอย่างไร และพระสงฆ์อรหันต์อริยะเจ้ามีคุณเช่นไรการสวดมนต์ด้วยความตั้งใจจนจิตเป็นสมาธิ แล้วใช้สติพิจารณาจนเกิดปัญญาและความรู้ความเข้าใจ ประโยชน์สูงสุดของการสวดมนต์นั่นคือ จะทำให้ท่านเป็นผลจนสำเร็จเป็นพระอรหันต์
ที่อาตมากล่าวเช่นนี้ มีหลักฐานปรากฏในพระธรรมคำสอนที่กล่าวไว้ว่า โอกาสที่จะบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์มี ๕ โอกาสด้วยกันคือ
๑ เมื่อฟังธรรม
๒ เมื่อแสดงธรรม
๓ เมื่อสาธยายธรรมนั่นคือ การสวดมนต์
๔ เมื่อตรึกตรองธรรม หรือเพ่งธรรมอยู่ในขณะนั้น
๕ เมื่อเจริญวิปัสสนาญาณ
" ตำ น า น พ ร ะ ป ริ ต ร
( ตามปกติ คำว่าตำนาน จะหมายถึงเรื่องราวนมนานที่เล่ากันสืบๆ มา
แต่ในที่นี้เป็นการเรียกพระปริตรบทๆ หนึ่งว่า ตำนาน ซึ่งมีผู้สันนิษฐานว่าน่าจะแผลงมาจาก
คำว่า ตาณ ในภาษาบาลีที่แปลว่า ต้านทาน หรือป้องกันเช่นเดียวกับคำว่า ปริตร
หรืออาจจะหมายถึงตำนานอันเป็นที่มาของแต่ละพระสูตรก็เป็นได้)
"การสวดพระปริตรหรือเจ็ดตำนานนี้
เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศลังกา ราว พ.ศ. ๕๐๐ "
[ ทำวัตร ] หมายถึง การทำกิจที่พึงทำตามหน้าที่ หรือตามธรรมเนียม เป็นคำย่อมาจากคำว่าทำกิจวัตรประจำอันเป็นธรรมเนียมปกติ
เรียกการไหว้พระสวดมนต์ของพระสงฆ์ตามปกติในตอนเช้าและตอนเย็นหรือตอนค่ำว่า ทำวัตรเช้า และ ทำวัตรเย็น
การทำวัตรเช้าและทำวัตรเย็นเป็นธรรมเนียมเลียนแบบมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล ซึ่งพระสงฆ์จะเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อรับฟังโอวาทเป็นกิจวัตรประจำวัน การทำวัตรมีจุดมุ่งหมายอย่างหนึ่งคือเพื่อเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า
ทำวัตร อีกความหมายหนึ่งคือการที่ภิกษุสามเณรนำธูปเทียนแพไปสักการะพระเถระผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือในโอกาสต่างๆ เช่น เพื่อขอลาสิกขา เพื่อขอลาไปอยู่ที่อื่น เพื่อขอขมาในกาลเข้าพรรษา การทำวัตรผู้ใหญ่แบบนี้ถือป็นธรรมเนียมของพระสงฆ์.
การสวดมนต์ ของหลวงปู่มั่นนั้น ท่านสวดมาก สวดนานเป็นชั่วโมงๆ และสวดเป็นประจำทุกคืนมิได้ขาด สูตรยาวๆ เช่น ธรรมจักร
(ธัมมจักรกัปปวัตตนสูตร) และมหาสมัย ท่านสวดเป็นประจำ ในกรณีพิเศษ เช่น เมื่อคราวท่านกับหลวงปู่เสาร์ไปวิเวกที่ท่าแขก
ฝั่งประเทศลาว และชาวบ้านเกิดโรคฝีดาษกันทั้งหมู่บ้าน ท่านแผ่เมตตาใหญ่ในรอบ ๒๔ ชั่วโมงต่อ ๓ ครั้ง คือ เวลากลางวัน
ตอนบ่ายขณะนั่งภาวนาครั้งหนึ่ง ตอนก่อนนอนครั้งหนึ่ง ตอนตื่นนอนครั้งหนึ่ง ส่วนการแผ่เมตตาปลีกย่อยประจำนิสัยนั้น
มิได้นับอ่านว่าวันหนึ่งกี่สิบครั้ง และท่านกล่าวถึงอานุภาพของการสวดมนต์ไหว้พระว่า พุทธมนต์นั้นใครสวดก็ตามจะเป็นกิจวัตรของพระสงฆ์
เช้า-เย็น หรือชาวพุทธทุกคนสวดพุทธคุณ:
· ระลึกในใจ มีอานุภาพแผ่ไปได้หมื่นจักรวาล
· พูดหรือออกเสียงพอฟังได้ มีอานุภาพแผ่ไปได้แสนจักรวาล
· สวดมนต์เช้า-เย็นธรรมดา มีอานุภาพแผ่ไปได้แสนโกฏิจักรวาล
· สวดเต็มเสียง สุดกู่ มีอานุภาพแผ่ไปได้อนันตจักรวาล
· แม้สัตว์ที่อาศัยอยู่ในสามภพและที่สุดอเวจี มหานรก ยังได้รับความสุข
เมื่อแว่วเสียงพุทธมนต์ ผ่านลงไปชั่วขณะหนึ่งครู่หนึ่ง ดีกว่าหาความสุขไม่ได้เลยตลอดกาล
(จาก“ประวัติท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ” โดยหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน,
".ช่อง ธรรมะ. พระธรรมคําสอน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.
..วัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ ธรรมะพ่อแม่ครูบาอาจารย์ บทสวดมนต์ในพระพุทธศาสนา เพื่อเทิดทูนเคารพบูชา คุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรมเจ้า คุณพระสังฆเจ้า {ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แสงสว่าง บนผืนแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง} เพื่อเป็นอานิสงส์เป็นประโยชน์แก่พุทธมามกะ พุทธบริษัทชาวพุทธสืบต่อไปฯ
..ทั้งนี้ทางช่อง ต้องขอขอบพระคุณ ผู้ที่มีส่วนสร้างผลงานภาพ สำหรับนำมาประกอบวีดีโอ ตลอดทั้งผู้มีส่วนทุกท่าน ไว้เป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้ด้วย
"จัดทำเผยแพร่เพื่อเป็นธรรมทาน..ไม่มีการจำหน่าย หรือ มีค่าตอบแทนใดๆ"
[จัดตั้งช่องธรรมะโดย พระทรงวุฒิ ถิรจิตโต]
การสวดมนต์ ของหลวงปู่มั่นนั้น ท่านสวดมาก สวดนานเป็นชั่วโมงๆ และสวดเป็นประจำทุกคืนมิได้ขาด สูตรยาวๆ เช่น ธรรมจักร (ธัมมจักรกัปปวัตตนสูตร) และมหาสมัย ท่านสวดเป็นประจำ ในกรณีพิเศษ เช่น เมื่อคราวท่านกับหลวงปู่เสาร์ไปวิเวกที่ท่าแขก ฝั่งประเทศลาว และชาวบ้านเกิดโรคฝีดาษกันทั้งหมู่บ้าน ท่านแผ่เมตตาใหญ่ในรอบ ๒๔ ชั่วโมงต่อ ๓ ครั้ง คือ เวลากลางวัน ตอนบ่ายขณะนั่งภาวนาครั้งหนึ่ง ตอนก่อนนอนครั้งหนึ่ง ตอนตื่นนอนครั้งหนึ่ง ส่วนการแผ่เมตตาปลีกย่อยประจำนิสัยนั้น มิได้นับอ่านว่าวันหนึ่งกี่สิบครั้ง และท่านกล่าวถึงอานุภาพของการสวดมนต์ไหว้พระว่า พุทธมนต์นั้นใครสวดก็ตามจะเป็นกิจวัตรของพระสงฆ์ เช้า-เย็น หรือชาวพุทธทุกคนสวดพุทธคุณ: · ระลึกในใจ มีอานุภาพแผ่ไปได้หมื่นจักรวาล · พูดหรือออกเสียงพอฟังได้ มีอานุภาพแผ่ไปได้แสนจักรวาล · สวดมนต์เช้า-เย็นธรรมดา มีอานุภาพแผ่ไปได้แสนโกฏิจักรวาล · สวดเต็มเสียง สุดกู่ มีอานุภาพแผ่ไปได้อนันตจักรวาล · แม้สัตว์ที่อาศัยอยู่ในสามภพและที่สุดอเวจี มหานรก ยังได้รับความสุข เมื่อแว่วเสียงพุทธมนต์ ผ่านลงไปชั่วขณะหนึ่งครู่หนึ่ง ดีกว่าหาความสุขไม่ได้เลยตลอดกาล (จาก“ประวัติท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ” โดยหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน,
ฃฃ
ดูกรอานนท์ มรณ สัญญา พิจารณาความตายก็ดี อัฏฐิกสัญญา พิจารณา กองกระดูกก็ดี ปฏิกูลสัญญา พิจารณาร่างกายนี้โดยเป็น ของน่าเกลียดน่าสะอิดสะเอียนเต็มไปด้วยหมู่หนอนและ จุลอินทรีย์มีจำนวนมากตามลำใส้น้อยลำใส้ใหญ่ ตามเส้น เอ็นทั่วไปในร่างกาย และเต็มไปด้วยเครื่องเน่าของเหม็น มีอยู่ในร่างกายนี้ทุกสิ่งทุกอย่าง ร่างกายนี้นับว่าเป็นของเปล่า ไม่มีอะไรเป็นของเราสักสิ่งสักอัน เกิดมาสำคัญว่าเป็นสุข ความจริงก็สุขไปอย่างนั้นเอง ถ้าจะให้ถูกต้องกล่าวว่า เกิดมาเพื่อทุกข์ เกิดมาเจ็บ เกิดมาใข้ เกิดมาเป็นพยาธิ เจ็บปวด เกิดมาแก่ เกิดมาตาย เกิดมาพลัดพรากจากกัน เกิดมาหาความสุขมิได้ ความสุขนั้นถ้าพิจารณาดูให้ละเอียด แล้วมีน้อยเหลือประมาณ ไม่พอแก่ความทุกข์ นอนหลับ นั้นแหละนับว่าเป็นความสุข แต่เมื่อมาพิจารณาดูให้ละเอียด แล้ว ซ้ำเป็นทุกข์ไปเสียอีก ถ้าผู้ใดพิจารณาเห็นตามดังเรา ตถาคตแสดงมานี้เป็นนิมิตอันหนึ่ง ครั้นจดจำได้แน่นอน ในตนแล้ว ก็เป็นเหตุให้ได้มรรคผลนิพพานในปัจจุบันนี้ โดยไม่ต้องสงสัย. ดูกรอานนท์ นักปราชญ์ทั้งหลายผู้ฉลาด ด้วยปัญญา ท่านบำเพ็ญอสุภานุสสติกรรมฐาน ปรารถนา เอาพระนิพพานเป็นที่ตั้งนั้น ท่านยอมถือเอาอสุภะในตัว เป็นอารมณ์ของกรรมฐาน ถ้ายังเอาอสุภะภายนอกเป็น อารมณ์อยู่แล้ว ยังไม่เต็มทางปัญญา เพราะยังอาศัย สญญาอยู่ ถ้าเอาอสุภะในตัวเป็นอารมณ์ของกรรมฐาน ได้จึงเป็นที่สุดแห่งทางปัญญา เป็นตัววิปัสสนาญาณได้.
"ทางช่องไม่ได้เปิดการสร้างรายได้จากโฆษณา ถ้ามีโฆษณาขึ้นมาเป็นไปตามกลไกของทางบริษัท youtube ..ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ.
สาธุสาธุสาธุๆเจ้าค่ะขอน้อมกราบพระอาจารย์เจ้าค่ะเสียงไพเราะที่สุดในโลกเจ้าค่ะสาธุ❤❤❤ขอน้อมอนุโมทนาบุญเจ้าค่ะ😅😅😅
กราบสาธุ สาธุ สาธุค่ะ 🙏🙏🙏
น้อมกราบสาธุสาธุสาธุเจ้าค่ะ
นอ้มกราบสาธุ่สาธุ่เจ้าค่ะ
กราบสาธุสาธุสาธุค่ะ
กราบสาธุๆๆเจ้าค่ะ😊
อนุโมทนาสาธุ🙏🙏
สาธุๆครับ
น้อมกราบสาธุเจ้าค่ะ เสียงสวดมนต์ของพระคุณท่าน ไพเราะชัดเจนทุกคำ มีตัวหนังสือให้อ่านตามฟังแล้ว จิตสงบ มีสติ น้ำเสียงมีพลังฟังแล้วมีอานุภาพมากมาย ชอบมากค่ะขอกราบขอบพระคุณมากสาธุ🙏🙏🙏
กราบสาธุค่ะ
น้อมกราบสาธุค่ะ
น้อมกราบสาธุๆๆเจ้าคะ,🙏🏻🙏🏻🙏🏻🙏🏻🙏🏻🌷🌷🌷🌷🌷
อนุโมทนาสาธุๆๆ
สาธุๆๆๆ😊ติดตามแล้ว❤❤❤
🙏🙏🙏 กราบสาธุครับ
น้อมกราบสาธุ สาธุ สาธุ เจ้าค่ะ
ขอน้อมกราบพระคุณเจ้าสาธุๆสาธุ🙏เจ้าค่ะ
🙏🙏🙏
กราบสาธุ สาธุ สาธุค่ะ 🙏🙏🙏
กราบสาธุ สาธุ สาธุค่ะ 🙏🙏🙏